Category สุขภาพ

จัดสวนในบ้านอย่างไรไม่ให้รกรุงรัง

เริ่มแปลงแบบสวนในพื้นที่บ้านของคุณได้ด้วยวิธีและก็กลเม็ดเหล่านี้ เช่นการ เลือกที่จะรื้อทำสวนหน้าบ้านใหม่หมดให้รับกับฤดูต่าง ๆ หรือกระจัดกระจายการลงทุนลงแรงเฉพาะเลือกเฉพาะแต่ละฤดูก็พอ การวางเป้าหมายที่ถ้วนถี่ก่อนที่จะเริ่มลงมือจะมอบผลสรุปที่ดำรงอยู่ไปนานนับเป็นเวลาหลายปี

1.สร้างรายการสั่งซื้อที่ต้องการจริง ๆ

ตั้งใจกับการสั่งซื้อต้นไม้ อย่างการเลือกจำกัดปริมาณสายพันธุ์ดอกไม้ ไม้พุ่ม และก็ต้นไม้ที่อยากได้ ไม่สมควรเลือกเพียงสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งที่เฉพาะเกินความจำเป็น ต้องมีพืชหลายสายพันธุ์ในสวนของคุณ เป็นต้นว่า ไม้ยืนต้น 8 สายพันธุ์, ไม้พุ่ม 4 สายพันธุ์ รวมทั้งต้นไม้อื่น ๆ 2 สายพันธุ์

แม้การข่มใจตนเองไม่ให้ซื้อดอกไม้ที่ประทับใจนั้นบางทีก็อาจจะฟังมองแปลก แต่ว่าเมื่อกล่าวถึงการซื้อเพื่อทำสวนหน้าบ้านแล้วล่ะก็ ยิ่งมีความสำคัญมากมายหลายของสายพันธุ์มากแค่ไหน สวนดอกไม้ก็จะมองเป็นอันหนึ่งเดียวกันมากยิ่งกว่า แต่ว่ามีความมากมายหลากหลายรวมทั้งงดงามในทุกจุด โดยไม่มีจุดใดจุดหนึ่งเด่นเกินความจำเป็น

2.คิดกระทำการใหญ่เข้าไว้

ควรจะวางแปลงดอกไม้ให้มีพื้นที่มากพอสำหรับพืชต่างได้หมดเท่าที่คุณต้องการ แปลงดอกไม้นั้นต้องมีตอนเว้นระยะห่างอย่างต่ำครึ่งเดียวของความกว้างของบ้าน นอกจากลานกว้างที่ขยายออกมาจากตัวบ้านไปยังฟุตบาทหรือถนนหนทางก็เป็นสิ่งที่จำเป็นที่เป็นสิ่งระบุขนาดแปลงดอกไม้ให้มีขนาดที่เหมาะสมกับตัวบ้าน สวนกลุ่มนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ เอาเข้าจริงคุณจะพบว่ามันปรารถนาความควบคุมน้อยกว่าสนามเสียอีก

3.ทำให้เป็นแนวทางเดียวกัน

ย้ำแบบการจัดวางในลักษณะเดิมบ่อย ๆ เพื่อการจัดมองเป็นอันหนึ่งเดียวกัน ให้ดูแลช่วยนำทางผู้มาเยี่ยมเยือนไปจนกระทั่งหน้าประตูบ้านได้ โดยการปลูกไม้พุ่มแบบถี่รอบ ๆ เริ่มของฟุตบาทที่เชื่อมมายังตัวบ้าน ปลูกลงในต้นแบบเดียวกันอีกครึ่งเมื่อถึงกลางทางเดิน รวมทั้งอีกทีตรงรอบ ๆ ก่อนถึงประตูบ้าน

4.เพิ่มข้อดีให้ประตูบ้าน

ทำให้ประตูหน้าบ้านกลับกลายเป็นจุดสนใจ แล้วก็เปลี่ยนรูปแบบการออกแบบไปยังแนวทางนั้น กลางทางเดินเป็นจุดที่ดีสำหรับในการโน้มน้าวสายตาไปสู่ประตูบ้าน สร้างฟุตบาทที่กว้าง (โดยประมาณเมตรครึ่งยอดเยี่ยม)

แล้วก็ไม่ยุ่งยากต่อการเห็น ที่ช่วยปรับประตูบ้านกระจ่างขึ้น ฟุตบาทแบบโค้งก็ช่วยเพิ่มความรื่นเริง แล้วก็เบิกบานแก่การเดินผ่านได้ แม้กระนั้นอย่าลืมว่าทางเท้าไปสู่ประตูจำเป็นต้องยังอยู่ที่เดิม หากแม้ทางจะคดเลี้ยวก็ตาม

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟัง

ลักษณะประตูบ้านแต่ละแบบ แบบไหนที่เหมาะกับคุณ

ประตูบ้าน ประตูในห้องต่าง ๆ เลือกประตูแบบไหน เหมาะสมกับบ้านของคุณ ประตูบ้าน นอกเหนือจากที่จะใช้เพื่อเป็นการเปิดปิดบ้าน แล้วก็สร้างความเป็นส่วนตัวแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมให้บ้านมีความสวยงามได้อีกต่างหาก อีกทั้งในขณะนี้ ยังมีประตูหลายประเภท ที่ปรับปรุงให้สวยสดงดงาม ล้ำยุคเยอะขึ้น พร้อมลูกเล่นต่าง ๆ มากมายก่ายกอง

เพื่อคล้ายคลึงกับความจำเป็นของแต่ละบุคคล และก็ในตอนนี้พวกเรามาดูกันว่า ที่เราเรียกกันมาตลอดว่าเป็นประตูบ้านนั้น มีกันกี่แบบ พร้อมขั้นตอนการเลือกประตูบ้านให้เหมาะสมกับบ้านของพวกเราเยอะที่สุด มาฝากกัน

– ประตูม้วน หรือประตูชัตเตอร์

เป็นประตูที่ใช้เลื่อนเปิด ปิด ขึ้นไปข้างบน ซึ่งโดยมากแล้วจะทำมาจากเหล็ก ฉาบกัลวาไนซ์ มีทั้งยังแบบทึบ แบบเตียนโล่ง นิยมใช้กับร้านต่าง ๆ นั่นเอง

 

– ประตูบานหมุน

เป็นประตูที่มีเรียกได้ว่าหมุน โดยมีแบบที่เป็นบานเดี่ยว คู่ สาม หรือสี่บาน ข้อดีเลยก็คือสามารถตั้งให้หมุนรอบได้ 360 องศา นิยมใช้ตกแต่งบ้านขนาดใหญ่ พื้นที่มาก นอกจากยังคงใช้ตกแต่งในตึก สถานที่ทำงาน สถานพยาบาล หรือที่สาธารณะต่าง ๆฯลฯ

 

– ประตูบานเฟี้ยม หรือพับ

เป็นประตูเล็ก ๆ เอามาเชื่อมกันจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นประตูขนาดใหญ่ ๆ พับสลับเป็นฟันปลา ซิกแซกได้ หรือไปรวมไว้ที่ฝั่งหนึ่งของประตู โดยประตูแต่ละบานต้องมีลูกเดือยติดอยู่ ทั้งยังข้างบนและก็ข้างล่างเพื่อเป็นตัวเชื่อมกันไว้ สร้างจากวัสดุที่นานาประการ อีกทั้ง กระจก, ไม้ หรือเหล็ก โดยขึ้นกับความชอบพอ ประตูบานเฟี้ยมมีจุดเด่นหมายถึงสามารถเปิดได้กว้าง ไม่เปลืองพื้นที่ รวมทั้งสะดุดตา มีสไตล์

 

– ประตูบานสไลด์

ประตูสไลด์ เป็นประตูที่ใช้ด้วยการเลื่อนไปด้านข้างโดยจะมีรางติดอยู่ข้าง ๆ ข้างบน หรืออีกทั้ง 2 ด้าน เพื่อช่วยทำให้ประตูเปิด – ปิดได้สบาย ลื่นไหลได้ดิบได้ดีมากเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีแบบบานเลื่อน ถึง 3 อย่างร่วมกัน เท่ากับว่าเป็น บานเดี่ยว หรือคู่ รวมทั้งบานสาม จุดแข็งก็คือ ไม่ขวาง เวลาผลักเข้า – ออก เหมาะกับพื้นที่จำกัด เหมาะสมกับบ้านขนาดเล็ก แต่ว่าปรารถนาพื้นที่ใช้สอยเยอะแยะ จำนวนมากประตูประเภทนี้นิยมทำจากกระจก มีแสงไฟส่องเข้า ทำให้บรรยากาศมองโปร่งเตียน แล้วก็ทำให้บ้านมองกว้างขึ้น

 

– ประตูบานสวิง 

เป็นประตู ซึ่งสามารถกเข้า-ออกได้ 2 ทาง ขอบของประตู นิยมทำจากAluminium รอบ ๆ ขอบทั้งยังข้างบน แล้วก็ด้านล่าง จะมีแกนเดือยยึด ติดอยู่ที่พื้นวงกบ หรือบานประตูด้วย ส่วนการใช้แรงงาน เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีคนเข้าออกเป็นประจำยกตัวอย่างเช่น ประตูหน้า หรือในสถานที่ต่าง ๆ อย่าง ห้าง ฯลฯ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ฮอยอาน่า

ผลลัพธ์ที่ได้จากการเดินมากขึ้น 10 นาทีต่อวัน 

ผลลัพธ์ที่ได้จากการเดิน คุณเคยลองคิดหรือเปล่าว่าในแต่ละวันนั้นคุณเดินหรือว่านั่งมากกว่ากันซึ่งเชื่อหรือไม่ว่าถ้าหากว่าเรานึกย้อนกลับไปแล้วคนส่วนมากจะนั่งมากกว่าเดิมเพราะตั้งแต่ตื่นเช้ามาก็ต้องนั่งกินข้าวหลังจากนั้นก็ต้องนั่งรถมาทำงานเมื่อมาถึงที่ทำงานแล้วก็ยังต้องนั่งทำงานนานอีก 7-8 ชั่วโมงกว่าจะได้กลับบ้าน

ตอนเย็นก็ยังต้องนั่งรถกลับบ้านแล้วเมื่อถึงบ้านแล้วก็เมื่อยล้าจากการเดินทางก็นั่งพักผ่อนอีกซึ่งตลอดระยะเวลาที่พูดมานี้แทบไม่มีช่วงเวลาไหนที่เราจะเดินเลยในช่วงระหว่างวันนั้นเรามีการเดินน้อยมากแต่คุณรู้หรือเปล่าว่าการเดินนี้สำคัญเป็นอย่างมาก

เพราะการเดินก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งและถ้าหากว่าคุณเพิ่มเวลาการเดินที่มีอยู่ให้มากขึ้นอีก 10 นาทีต่อวันรับรองได้ว่าผลลัพธ์ที่ตามมาของคุณจะทำให้คุณรู้สึกทึ่งได้อย่างแน่นอน 

รูปภาพ : คนเดินเท้า, ที่เดิน, ถนน, เมือง, ฝูงชน, ฤดูร้อน, ช้อปปิ้ง ...

 

สำหรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราเริ่มเลือกที่จะเดินมากขึ้นเพียงแค่วันละ 10 นาทีเท่านั้นสิ่งที่เราจะได้มานั้นดีต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

อย่างแรกก็คือการเดินจะช่วยทำให้เลือดของเราสูบฉีดในร่างกายมากยิ่งขึ้นทำให้มีเลือดไปบำรุงหัวใจและทำให้หัวใจของเรานั้นมีสุขภาพดีหัวใจแข็งแรงลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆซึ่งเกิดจากปัญหาการทำงานของหัวใจได้นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องของการลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย

นอกจากจะช่วยเรื่องของหัวใจแล้วยังช่วยเรื่องของสมองและระบบประสาทให้ได้อีกด้วยเพราะจากการวิจัยพบว่าการที่เราเดินไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในสวนสาธารณะหรือแม้แต่การเดินขึ้นบันไดในระหว่างที่เดินนั้นเราก็จะได้มีการเรียนรู้นึกคิดไปด้วยซึ่งมันจะทำให้เราได้มีการฝึกพัฒนาสมอง โดยระหว่างที่เราเดินนั้นมันจะมีการกระตุ้นสารกระตุ้นทางด้านเซลล์สมองทำให้เกิดการเรียนรู้และความจำขึ้นมาได้และช่วยเพิ่ม IQ ให้กับเราได้อีกด้วย 

นอกจากนี้ยังช่วยทำให้กระดูกของเราแข็งแรงเพราะการเดินก็คือการออกกำลังกายอย่างหนึ่งซึ่งต้องมีการใช้กล้ามเนื้อโดยการเดินนั้นเราสามารถบริหารกระดูกตั้งแต่ที่เท้าที่ขาที่แขนลำตัวถ้าหากเราเดินเป็นประจำทุกวันบอกได้เลยว่าเราจะแข็งแรงมากกว่าคนทั่วๆไปอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามระหว่างที่เราเดินนั้นถ้าหากว่าเราไม่รีบเร่งในการเดินมากเกินไปเดิมแบบเรื่อยๆเราก็สามารถคิดและจินตนาการเรื่องราวไปได้

ซึ่งมันจะทำให้เรานั้นรู้สึกผ่อนคลายและไม่เครียดยิ่งถ้าหากว่าเราได้ไปเดินในสวนสาธารณะที่มีอากาศดีๆเราก็จะรู้สึกสดชื่นทำให้เรามีความสุข  และเมื่อเราไม่มีความเครียดใดๆเมื่อถึงเวลาช่วงที่เราต้องนอนหลับมันก็จะทำให้เรานั้นนอนหลับสบายเป็นคนที่หลับง่ายเพราะเราจิตใจสงบขึ้นนั่นเอง 

 

 

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

3 สัญญาณเตือนที่บอกว่าร่างกายกำลังขาดน้ำ

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า น้ำ เป็น หนึ่ง ในส่วนประกอบสำคัญของร่างกายของเรา แต่รู้หรือไม่ว่าในแต่ละวันร่างกายของเรานั้นสูญเสียน้ำไปเยอะมากๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของเรา ไม่ว่าจะเป็นทั้งการขับเหงื่อ การปัสสาวะ การเข้านอน การหายใจเข้าออก

รวมไปจนถึงความผิดปกติต่างๆของร่างกายก็อาจทำให้ร่างกายของเราสูญเสียน้ำไปได้เช่นกัน ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่ร่างกายของเราเกิดภาวะขาดน้ำหรือสูญเสียน้ำมากจนเกินไปนั้น

บวกกับการที่เราดื่มน้ำน้อยดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอกจากจะทำให้อวัยวะต่างๆภายในร่างกายเกิดความผิดปกติแล้ว ยังอาจเป็น หนึ่ง ในสัญญาณเตือนว่าร่างกายของเรากำลังได้รับความเสี่ยงต่างๆอีกด้วย

ฉะนั้น การที่เราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองถือเป็น หนึ่ง ในปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดื่มน้ำเยอะๆเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

ยิ่งดื่มเยอะก็ยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกายของเราเพราะนอกจากจะทำให้อวัยวะต่างๆภายในร่างกาย ทำงานได้อย่างปกติแล้วยังช่วยลดภาวะขาดน้ำภายในร่างกายของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่มีความกังวลว่าร่างกายของตนเองกำลังขาดน้ำวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าจะมีสัญญาณเตือนไหนกันบ้างที่สามารถบ่งบอกได้ว่าร่างกายของเราเริ่มเกิดภาวะขาดน้ำ ไปดูกันเลย

1.การมีกลิ่นปาก

เคยได้ยินคำนี้หรือไม่กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลกขำนี้ไม่เกินจริงรู้หรือไม่ว่ากลิ่นปากถือเป็น หนึ่ง ในสัญญาณเตือนที่สามารถบ่งบอกอะไรได้หลายๆอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งร่างกายเริ่มขาดน้ำ เพราะเมื่อไรก็ตามที่ร่างกายของเราเริ่มขาดน้ำกลิ่นปากของเราก็จะเริ่มมาทันที เพราะเมื่อร่างกายขาดน้ำน้ำลายของเราก็จะเกิดการผลิตน้อยลงจนทำให้เรานั้นมีเก่งปากนั่นเอง

2.อาการขาดสมาธิ

รู้หรือไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของตนเองไม่มีจุดโฟกัสที่ชัดเจนขาดการมีสติหรือไม่มีสมาธิ ถือเป็น หนึ่ง ในสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกได้ว่าร่างกายของเราเลือกที่จะขาดน้ำ เพราะเมื่อไรก็ตามที่ร่างกายของเราเริ่มขาดน้ำ อาจจะทำให้การโฟกัส หรือการมีสมาธิ ของเรานั้น มีประสิทธิภาพที่ลดลงได้ หากใครที่มีอาการดังกล่าวควรที่จะรีบดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อไม่ให้อาการขาดสมาธิทำงานผิดปกติ

3.ผิวยืดหยุ่นน้อยลง

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ผิวของเราเริ่มรู้สึกแห้งไม่อิ่มน้ำ ถือเป็น หนึ่ง ในสัญญาณเตือนสำคัญที่อาจบ่งบอกได้ว่าร่างกายของเราเริ่มที่จะขาดน้ำ เพราะการที่ร่างกายของเราได้รับปริมาณน้ำไม่เพียงพออาจจะทำให้ผิวของเรายืดหยุ่นได้น้อยลงแถมยังทำให้ผิวแห้งกร้าน ดูไม่อิ่มน้ำได้นั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    hoiana casino

สูงวัยไร้โรคด้วย 3 สิ่งที่ไม่ควรละเลย

วัยสูงอายุในสมัยปัจจุบันนี้ เป็นหนึ่งในช่วงวัยที่หลาย ๆ คนนั้นจะต้องเจอกันอย่างแน่นอน เพราะในสมัยนี้หลาย ๆ คนก็เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน จึงทำให้การใช้ชีวิตนั้นเปลี่ยนไป ซึ่งรู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันนี้มีอัตราผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเริ่มเข้าสู่วัยสูงอายุ ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ

สูงวัยไร้โรคด้วย 3 สิ่งที่ไม่ควรละเลย ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย รวมไปถึงปัญหาสุขภาพจิต และปัญหาสุขภาพร่างกายย่อมเปลี่ยนแปลงไปจามกาลเวลา

เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่แล้ว ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย หรือแทบจะไม่ได้ออกกำลังกาย เพราะร่างกายอ่อนแอเกินไป

ทั้งยังอาจทำให้ร่างกายนั้นได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายอีกด้วย ฉะนั้น ขอบอกเลยว่าหากบ้านไหนที่มีผู้สูงอายุ ควรที่จะให้ความสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพ รวมไปถึงในเรื่องของโภชนาการเพื่อเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรง หรือเพิ่อป้องกันการเกิดโรคร้ายบางโรค

เพราะการที่เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีจากภายในสู่ภายนอก เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม ดังนั้นหากใครที่อยากเริ่มต้นหันมาดูแลสุขภาพร่างกายของพ่อแม่ หรือผู้สูงอายุในบ้าน วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูสิ่งที่ไม่ควรละเลย หากอยากป้องกันร่างกายผู้สูงอายุจากโรคร้ายไปดูกันเลย 

 

1.อาหาร แน่นอนว่าอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ร่างกายของผู้สูงวัยนั้นไม่ควรที่จะขาด เพราะโดยทั่วไปแล้วร่างกายของผู้สูงวัยไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว หรือไม่ค่อยได้ขยับ

จึงจำเป็นอย่างยิ่งเราเราจะต้องหมั่นเติมพลังงานหรือเติมสารอาหารที่ดีและมีประโยชน์ให้ร่างกายผู้สูงวัยอยู่เสมอ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงนั่นเอง เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ช่วยในการดูดซึม เพื่อป้องกันร่างกายจากโรคร้ายนั่นเอง 

 

2.อารมณ์ เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาดสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ เพราะเราอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า ผู้สูงวัยส่วนใหญ่นั้นจะมีอารมณ์ที่แปรปรวนได้ง่าย

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรให้ความสำคัญในการดูแลอารมณ์ผู้สูงวัยอย่างใกล้ชิต คอยพาพวกเขาออกไปบริหารร่างกาย หรือบริหารสุขภาพจจิตอยู่เสมอ เพื่อเป็นการกระตุ้นสุขภาพจิตให้ดีอยู่เสมอ รวมไปจนถึงการทำให้ผู้สูงอายุนั้นมีอารมณ์ที่สดชื่น แจ่มใส มีรอยยิ้ม ไม่เครียดได้ง่าย เพียงแค่นี้ก็สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกายที่ดี และปลอดภัยจากโรคร้ายได้

 

3.งานอดิเรก  รู้หรือไม่ว่า การที่เราพาผู้สูงวัยออกไปทำงานอดิเรก ที่ชื่นชอบ ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่จะสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานร่างกายของผู้สูงอายุได้ แถมยังเป็นการช่วยให้ผู้สูงวัยนั้นได้เคลื่อนไหว หรือขยับร่างกาย เพื่อเป็นการบริหารสุขภาพได้อีกด้วย

ดังนั้น การที่เรามองหางานอดิเรกที่มีความเหมาะสมสำหรับผู้สูงวัย ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะหากผู้สูงอายุได้ทำในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ ก็จะมีร่างกายที่แข็งแรง รวมไปถึงการใช้ชีวิตได้อย่างยาวนาน 

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

เปิดพฤติกรรมที่ทำให้เราแก่เร็ว

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ทำไมบางคนถึงดูแก่กว่าไว มีริ้วรอยมีรอยเหี่ยวย่นและผิวดูไม่อิ่มน้ำง่าย ซึ่งสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเรานั้นหลายคนอาจจะมองว่า เมื่อเราแก่ตัวไปสุขภาพร่างกายย่อมเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา รวมไปจนถึงการดูแลสุขภาพร่างกายย่อมไม่ดีเหมือนแต่ก่อนอย่างแน่นอน

แต่รู้หรือไม่ว่า ไม่ว่าจะช่วงอายุไหนหรือวัยไหนก็ตามหากดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองไม่ดี หรือหากมีพฤติกรรมบางอย่างก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายหรืออาจทำให้เราดูแก่กว่าไวได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งการใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร

หรือแม้แต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บางอย่าง ฉะนั้น ไม่ว่าใครก็ตามก็คงไม่อยากที่จะทำให้ตนเองนั้นดูแก่กว่าวัยหรือมีริ้วรอยบนใบหน้า เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้อาจจะทำให้บางคนเสียความมั่นใจได้ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายหลายคนคงเจอกับสถานการณ์หรือปัญหาการแก่ก่อนวัยหรือกำลังพบเจอกับปัญหาการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า หรือมีเหี่ยวย่นได้ง่าย

แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะในสมัยปัจจุบันนี้มีวิธีมากมายหลากหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณนั้น สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆนี้ได้อย่างง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ตัวเองดูอ่อนกว่าวัย หรือการเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตให้กับตนเอง

ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้หลายหลายคนดูแก่กว่าวัย หรือมีริ้วรอยบนใบหน้าได้ง่ายเกิดจากพฤติกรรมไหนกานบ้างที่เราชอบจะทำกันบ่อย ๆ ไปดูกันเลย

  • การอดนอน

แน่นอนว่าสาวสาวส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการอดนอนหรือนอนน้อยกันอยู่เป็นประจำ ฉันรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมนี้ถือเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อร่างกายได้ง่าย เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายของเราเสื่อมสภาพได้ง่ายร่างกายดูโทรมแล้ว ยังอาจทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าและรอยย่นบนใบหน้าของเราเกิดขึ้นได้ง่ายอีกด้วย

ฉะนั้น การที่เรานอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอไม่อดนอนเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้เรานั้น แก้ไขปัญหาการแก่กว่าวัยได้

  • การเลือกทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ

การที่เราเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และเลือกแต่สิ่งที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเราแล้วยังถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะป้องกันการแก่เร็วของเราได้ แต่แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะ รับประทานอาหารไม่เลือกจะทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบ ทำให้ร่างกายเกิดริ้วรอยหิวยนต์ได้ง่ายนั่นเอง ยิ่งถ้าเป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอาจทำให้ร่างกายของเราได้รับผลกระทบอย่างหนักนั่นเอง

  • การตากแดดมาก ๆ

รู้หรือไม่ว่าการที่ร่างกายของเราได้รับแสงแดดมากๆ ก็อาจทำให้สุขภาพผิวของเราหรือรอยเหี่ยวย่นเกิดขึ้นได้ง่ายเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ใบหน้าของเรามีรอยกระ ผิวแห้งกร้าน หรือแก่เร็ว ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงแดดได้ แต่หากเรารู้จักป้องกันตนเองหรือรู้จักดูแลสุขภาพผิวของเราให้ดีอยู่เสมอ ต้องอาจเป็นหนึ่งในตัวช่วยดีดีที่จะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยและไม่ทำให้เราแก่เร็วได้ง่ายอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน

3 เทคนิคลดการสะสมของไขมันโดยไม่ต้องออกกำลังกาย

สมัยปัจจุบันนี้ หนุ่มๆสาวๆส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการลดน้ำหนักกันเยอะมากๆ เพราะการที่เรามีรูปร่างที่ดี มีหุ่นที่สวยสุขภาพดี รวมไปถึงมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การใช้ชีวิตในประจำวันนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราจะลดน้ำหนักได้นั้นสมัยนี้สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งในแต่ละวิธีก็จะมีประโยชน์และมีผลลัพธ์ที่ค่อนข้างแตกต่างกันออกไปอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลัง รวมไปถึงการเลือกรับประทานอาหารเองก็ตาม เพราะการที่เรามีไขมันสะสมภายในร่างกายเยอะถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้หลายๆคนนั้นเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตไป

ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่าสมัยนี้หนุ่มๆสาวๆหรือไม่ว่าใครก็ตามเริ่มหันมาออกกำลัง  เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ     หรือควบคุมอาหารกันมากขึ้นเพื่อที่จะช่วยลดการสะสมของไขมันแต่ทว่าเนื่องจากการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่นั้นแตกต่างกันออกไปบางคนอาจมีเวลาออกกำลังกายหรือควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพแต่

สำหรับบางคน ใช้ชีวิตเต็มที่กับการทำงานจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แต่ก็ยากที่จะลดน้ำหนัก ซึ่งวันนี้เราก็จะมาแนะนำเทคนิคง่ายๆในการลดการสะสมของไขมันโดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องออกกำลังกายซึ่งก็เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาได้ออกกำลังกาย ก็คือจะมีวิธีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

1.การเน้นการทานโปรตีน อย่างที่เราทราบกันดีว่าโปรตีนเป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ดีและแข็งแรงให้แก่ร่างกายของเราได้ซึ่งคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักส่วนใหญ่ก็มักที่จะเลือกทานโปรตีนเพราะสามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้

รู้หรือไม่ว่าการที่เราไม่ได้ออกกำลังกายแต่เน้นการทานโปรตีนถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดการสะสมของไขมันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีอีกด้วย

2.การเพิ่มไฟเบอร์ไปในมื้ออาหาร อาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ค่อนข้างสูงนั้น จะยิงเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายของเราหรือระบบย่อยอาหารของเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ซึ่งสำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลา ได้ออกกำลังกายขอบอกเลยว่าการที่เราเพิ่มไฟเบอร์เข้าไปในมื้ออาหารที่เรารับประทานอยู่เป็นประจำนั้นจะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้เราสามารถลดการสะสมของไขมันได้เป็นอย่างดี

3.หลีกเลี่ยงการทานอาหารแปรรูป หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าอาหารแปรรูปถือเป็นหนึ่งในอาหารที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจทำให้เราอ้วนได้ง่ายหรือทำให้ร่างกายอ่อนแอ

ดังนั้นสำหรับใครที่อยากดูแลสุขภาพร่างกายและยากที่จะลดน้ำหนักไปด้วยการที่เราหลีกเลี่ยงการทานอาหารแปรรูป นอกจากจะช่วยลดการสะสมของไขมัน น้ำตาล ยังทำให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีและทำให้การลดน้ำหนักนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แนะนำท่าโยคะช่วยบำรุงหัวใจได้

รู้หรือไม่ว่า หัวใจของเรา เป็นหนึ่งในอวัยวะที่ทำงานตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นทั้งเวลาเราหลับหรือแม้แต่เราใช้ชีวิตเองก็ตาม ซึ่งการที่เราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพหัวใจ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด

เพราะโดยทั่วไปแล้วหัวใจของเราจะทำงานอยู่ตลอดเวลา และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราปล่อยละเลยการดูแลหัวใจ อาจจะทำให้สุขภาพหัวใจของเรานั้นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าหัวใจนั้นจะมีหน้าที่คอยสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายอยู่เสมอ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหมั่นบำรุงและดูแลสุขภาพหัวใจให้ดีอยู่เสมอนั่นเอง ซึ่งในสมัยนี้การดูแลสุขภาพหัวใจให้ดีและแข็งแรงก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป  เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก    ไม่ว่าจะเป็นทางการเลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ

โดยตรง รวมไปถึงการออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะก็เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ฉะนั้น เชื่อว่าหลายหลายคนคงต้องการที่จะมีสุขภาพหัวใจที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ และหากใครที่ต้องการ อยากบำรุงสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงอยู่เสมอก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป

เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำท่าโยคะที่มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจได้ หากเราเล่นเป็นประจำก็จะทำให้หัวใจของเราแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะมีท่าทางไหนกันบ้างไปดูกันเลย

  • ท่า Half Spinal Twist Pose

ท่าโยคะด้านนี้จะเป็นท่าที่เราสามารถทำได้ง่ายง่ายเพียงแค่เราบิดตัว ไปคนละฝั่งกับขาที่เรายกขึ้นมาจากพื้น ซึ่งขอบอกเลยว่าท่าทางโยคะท่านี้นอกจากจะช่วยปรับรูปร่างและบุคลิกของเราให้ดียิ่งขึ้น ยังช่วยในการฝึกการหายใจของเราให้รู้สึกผ่อนคลายได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นท่าทางที่สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจของเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

  • ท่า Bridge pose

ขั้นตอนแรกของท่านี้เป็นท่าที่เราต้องเริ่มต้นด้วยการนอนหงาย หลังจากนั้นให้งอเข่าขึ้นระหว่างเท้าอยู่กับพื้น ซึ่งเท้าของเราควรที่จะมีระยะห่างให้พอดีกับสะโพกของเราที่ต้องยกขึ้น โดยท่านี้จะสามารถช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกผ่อนคลายได้ ทำให้เลือดสูบฉีดได้มากยิ่งขึ้น และหากใครที่ต้องการทำให้หัวใจแข็งแรง ท่าโยคะท่านี้หากทำเป็นประจำก็จะสามารถทำให้หัวใจของเราแข็งแรงและเกิดการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ดีมากยิ่งขึ้น

  • ท่า Seated Forward Bend Pose

ท่าโยคะท่านี้เป็นท่าที่หลายหลายคนก็สามารถทำได้ใครที่ต้องการมีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรง รับเป็นท่าที่เราสามารถเริ่มต้นด้วยการนั่งราบลงบนพื้น หลังจากนั้นให้เรางอตัวลงมาแล้วยืดแขนตรง ซึ่งแขนของเราจะต้องแตะไปถึงปลายเท้าที่เรายื่นออกไป

โดยท่านี้จะช่วยทำให้ระบบต่างๆหรืออวัยวะต่างๆภายในร่างกายของเราทำงานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยทำให้หัวใจของเรานั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการสูบฉีดเลือดได้ดีมากขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มระบบการไหลเวียนเลือดภายในร่างกายให้ดีได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

เช็คอาการโรคซึมเศร้าพร้อมกับวิธีรักษา

คนส่วนใหญ่มักไม่รู้จักโรคซึมเศร้าหรือไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นด้วยซ้ำ เพราะอาการมันไม่ได้ชัดขนาดนั้น อย่างไรก็ตามหากคุณมีอาการผิดปกติทางด้านความรู้สึกซึ่งอาจจะหดหู่หรืออาจจะรู้สึกวิตกกังวลจนทำให้นอนไม่หลับ ก็ควรมาปรึกษาแพทย์เพราะว่าคุณอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าก็ได้

โรคซึมเศร้าเกิดจากการผิดปกติทางด้านจิตใจหรืออาจจะเรียกว่าจิตเวช ที่อยุ่ในกลุ่มจิตเวชก็เพราะว่ามีความผิดปกติทางด้านสมองของคุณ และผิดปกติทางด้านจิตใจของคุณนั่นเองซึ่งหากคุณกังวลว่าคุณนั้นเป็นโรคซึมเศร้าอยู่หรือเปล่า ให้ลองสังเกตตามนี้ โดย  เครื่องช่วยฟังอย่างดี   เราได้หยิบเบื้องต้นของคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเอามาฝากแล้ว สามารถเช็คได้ดังนี้ แต่ต้องบอกว่าถ้ามีอาการตามนี้ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วนนะ

เช็คอาการโรคซึมเศร้า สามารถเช็คได้ดังนี้

1.เศร้า เบื่อหรือหงุดหงิดง่าย อาการไม่ว่าจะเป็นเศร้า หงุดหงิดหรือเบื่อง่าย มักจะพบบ่อยๆในระหว่างวัน หากคุณมีอารมณ์เหล่านี้บ่อยๆหรือเป็นทุกวัน ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นโรคซึมเศร้าแล้วนะ

 2.ไม่อยากทำอะไรเลยแม้แต่สิ่งที่ตัวเองชอบ รู้สึกว่าไม่อยากทำอะไรเลย มองไปทางไหนก็เบื่อไปหมด แม้แต่สิ่งที่ตัวเองชอบมากที่เคยตั้งใจทำมาตลอดแต่ก็ไม่อยากทำไม่อยากจะมอง บางคนอยากจะนอนเฉยๆ เบื่อไปหมดทุกอย่าง ไม่ยินดียินร้ายอะไรกับใครกลับมองว่าเรื่องเหล่านั้นน่าเบื่อขึ้นมาก

 3.เบื่ออาหารมากกว่าปกติหรือกินอาหารมากกว่าปกติ พบได้สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้า บางคนเบื่ออาหารไม่ยอมทานอะไรเลย น้ำหนักลงเยอะมาก ผอมมากเหมือนคนคิดมาก แต่ในบางรายก็เครียดมากจนทำให้ทานไม่หยุดจะต้องทานตลอดเวลา น้ำหนักตัวก็พุ่งขึ้นเร็วมากเช่นกัน

 4.มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ การนอนมักจะนอนไม่ค่อยะหลับ หรือไม่หลับลึก ในแต่ละคืนก็จะตื่นมากลางดึกบ่อยครั้ง ทำให้การนอนยาวๆมีปัญหาตามมา ซึ่งไม่สามารถนอนยาวได้ แต่ในบางรายก็หลับมากหลับเกินเบอร์ หลับจนไม่อยากตื่น เอาแต่หลับจนน่ากลัว หลับแบบไม่ลุกมาทำอะไร

 5.มีปัญหาด้านความรู้สึก การทำงาน บางคนเป็นก็รู้สึกอ่อนเพลียจนไม่มีแรง ทำให้ทำอะไรช้าจนน่าลำคาน ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะอยากทำอะไรเลย หรือในบางคนก็รู้สึกกระสับกระส่ายจนเกินไป โดยอาการส่วนใหญ่ไม่ช้ามากก็แปลกผิดตา ดังนั้นผู้ที่มีอาการเหล่านี้จะสังเกตได้ไม่ยากเลย

แต่ถึงอย่าไรก็ตามหากมีข้อใดข้อหนึ่งหรือมีมากกว่า 3 ข้อที่เราเอ๋ยมานี้ แนะนำให้รีบไปปรึกษาแพทย์โดยเร็วเพราะถ้าปล่อยเอาไว้อาจจะถึงตายด้วยการซึมเศร้าได้ เพราะคนเป็นโรคนี้ส่วนใหญ่มักอยากจบชีวิตของตนเอง

หมอเตือน เครื่องฟอกอากาศแบบห้อยคอ  ไม่สามารถฟอกอากาศได้ 

      เชื่อว่าทุกวันนี้หลายคนคงเคยได้เห็นผู้คนที่เดินตามท้องถนนหรือว่าอยู่ในตัวอาคารมีการห้อยคอเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กเอาไว้โดยหวังว่าเครื่องฟอกอากาศนี้จะสามารถช่วยฟอกอากาศให้เราหรือช่วย ป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ให้เราเพราะว่าปัจจุบันนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเรื่องของมลพิษทางอากาศและ pm 2.5 ค่อนข้างเยอะ

นอกจากนี้ยังมีเชื้อโรคต่างๆมากมายโดยเฉพาะเชื้อโควิดที่กระจายอยู่ในอากาศดังนั้นจึงมีคนหัวใสทำเครื่องฟอกอากาศแบบห้อยคอมาขายแล้วก็ได้รับความนิยม จากผู้คนเป็นจำนวนมาก 

   อย่างไรก็ตามแต่เมื่อไม่นานมานี้เองทางด้านหมอมานพชำแหละได้มีการออกมาแสดงความคิดเห็นและมีการชี้แนะผู้ที่ใช้เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาด้วยระบุว่าเครื่องฟอกอากาศดังกล่าวนั้น

มีขายตามท้องตลาดทั่วไปและมีราคาสูงแต่เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาที่มีการนำมาห้อยคอกันนี้ไม่สามารถใช้งานได้จริงโดยทางคุณหมอชำแหละเครื่องฟอกอากาศออกมาดูแล้ว

พบว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะสามารถฟอกอากาศได้และไม่สามารถที่จะทำการป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ได้อีกด้วยดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากเพื่อไปทำการซื้ออุปกรณ์เล็กๆมาเอาห้อยไว้ที่คอเพราะหวังว่าอุปกรณ์นี้จะสามารถช่วยฟอกอากาศได้นั่นเอง 

  สำหรับเครื่องฟอกอากาศแบบห้อยคอนี้จะเห็นได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอยู่มากอยู่ในขณะนี้โดยคุณสมบัติของอุปกรณ์ชิ้นนี้มีการกำหนดว่ามันสามารถฟอกอากาศได้

ซึ่งตัวสร้อยนั้นจะสร้างประจุลบไปทำการป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 และยังสามารถช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ทำให้เวลาที่เราสูดอากาศบริเวณเครื่องฟอกอากาศนั้นเราก็จะได้อากาศที่บริสุทธิ์เข้าไปในปอดทำให้หลายคนที่ได้รับการโฆษณาแบบนี้หลงเชื่อและซื้อเครื่องฟอกอากาศนี้มาใช้งาน 

  สำหรับหมอมานพนั้นท่านเป็นศาสตราจารย์อยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชซึ่งท่านดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยเป็นเรื่องด้านการแพทย์แม่นยำ  และศาสตราจารย์นายแพทย์มานพนี้ก็ได้มีการซื้อเครื่องฟอกอากาศแบบพกพานี้มาทำการตรวจสอบภายในเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยยืนยันว่าตัวเครื่องฟอกอากาศนั้นจะไม่สามารถทำการฟอกอากาศได้ใช้ได้อย่างเดียวคือเป็นเพียงแค่เครื่องรางของขลังเท่านั้นแต่ไม่ได้มีผลการใช้งานจริงตามที่มีการโฆษณานอกจากนี้นายแพทย์มานพยังระบุอีกด้วยว่า ผู้คนไม่จำเป็นที่จะต้องหลงเชื่อคำโฆษณาน่ะการตลาดที่มีการสื่อออกมาเกินจริงเพราะสินค้าบางอย่างนั้นผลิตออกมาเพื่อที่จะให้คนหลงเชื่อแต่ไม่ได้สามารถใช้งานจริงตามที่โฆษณา 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   เครื่องช่วยฟังราคาถูก